นานมาแล้ว มีเศรษฐีชื่อ นนท์ และภรรยาชื่อ พราหมณี ทั้งสองไม่มีลูกจึงได้ไปบนบานสานกล่าวเพื่อขอลูกจากเทวดาอารักษ์ เทวดาจึงให้ลูกแก่เศรษฐีถึง ๑๒ คน ด้วยความที่มีลูกเยอะฐานะทางบ้านจึงค่อยๆ ตกต่ำลง เงินทองที่เก็บไว้ก็หายไปหมด เนื่องจากต้องเลี้ยงดูลูกสาวทั้งสิบสองคน เศรษฐีทั้งสองจึงต้องกลายมาเป็นเพียงชาวบ้านที่ต้องหาเช้ากินค่ำ ในวันหนึ่งเศรษฐีนนท์หาปลามาได้มากถึง ๑๒ ตัว และให้ลูกๆ ช่วยกับทำอาหาร แต่เพราะด้วยความเป็นเด็กพวกนางจึงควักตาปลาออกมาเล่น แต่นางเภาซึ่งเป็นน้องคนสุดท้องเกิดความสงสารจึงควักตาปลาแค่ข้างเดียวในขณะที่พี่ๆ ของนางนั้นควักออกถึงสองข้าง หลายวันต่อมาเศรษฐีนนท์เกิดความรู้สึกทนกับความยากลำบากไม่ไหว จึงได้คิดอุบายว่าจะนำลูกทั้งสิบสองคนไปปล่อยป่า โดยหลอกลูกของตนว่าตนจะไปเยี่ยมญาติจะพาลูกทั้ง ๑๒ คนไปด้วย เมื่อมาถึงกลางป่าเขาก็บอกกับลูกของเขาว่าจะไปหาผลไม้มาให้กิน ให้ลูกๆ รอก่อน เมื่อได้โอกาสเขาก็หนีไปโดยหวังว่าจะมีคนใจดีมารับไปเลี้ยงดู นางสิบสองรอบิดาของตนจนเหนื่อย โชคดีที่นางเภามีความฉลาดมากกว่าพวกพี่ๆ ได้นำข้าวตากโรยตามทางที่เดินมา พวกนางทั้งสิบสองจึงกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย เมื่อบิดาและมารดาเห็นลูกของตนกลับมาบ้านได้ก็ตกใจมาก และได้คิดว่าจะนำลูกของตนไปปล่อยป่าอีกครั้ง และวันนั้นก็มาถึงพ่อของนางสิบสองได้นำลูกของตนไปปล่อยป่าอีกครั้งคราวนี้โชคร้ายนางเภาไม่ได้เอาข้าวตากมา ทำให้นางทั้งสิบสองติดอยู่ในป่า นางทั้งสิบสองคนได้อยู่ในป่าจนรุ่งเช้าของอีกวัน นางเภาได้บอกกับพี่ๆ ของตนว่าควรจะหาทางกลับบ้านใหม่ แต่เดินไปเท่าไหร่ก็ไม่ถึงสักที
จนในที่สุดก็มาเจอกับนางยักษ์สันตรา เนื่องจากนางเป็นยักษ์ใจดีพอได้เห็นนางทั้งสิบสองก็เกิดความรักและเอ็นดูเนื่องด้วยตนไม่มีลูกและสามีของตนก็ตายไปแล้ว นางยักษ์จึงนำนางทั้งสิบสองมาเลี้ยงไว้ในวัง โดยสั่งให้ทุกคนในเมืองทานตะวันแปลงกายเป็นมนุษย์ให้หมดเนื่องจากกลัวว่า นางทั้งสิบสองจะหวาดกลัวและเกลียดตน นางได้เปลี่ยนชื่อจากสันตราเป็นสันธมาลา นางทั้งสิบสองใช้ชีวิตอยู่ในวังอย่างสุขสบายจนกระทั่งโตเป็นสาว นางเภาก็เกิดความสงสัยขึ้นมาว่า เมืองนี้เป็นเมืองยักษ์เพราะว่าตนนั้นไม่เคยเห็นสัตว์ตัวไหนในเมืองนี้เลย และพี่ๆ ของตนก็ได้เจอกับกองกระดูกที่พวกยักษ์กินทิ้งไว้ท้ายวัง ซึ่งนางสันธมาลาห้ามไม่ให้ไปอีกด้วย นางเภาจึงพาพวกพี่ๆ หนีจากเมืองยักษ์จนนางสันตราตามมา แต่ไม่สามารถเห็นนางทั้งสิบสองเพราะเทวดาในป่าคุ้มครองนางทั้งสิบสองไว้ นางสันตราจึงกลับเมืองไปด้วยความอาฆาตแค้น
นางทั้งสิบสองดีใจที่หนีจากนางยักษ์มาได้และก็เดินทางไปโดยไร้จุดหมายจนมาถึงเมืองกุตลนครซึ่งมีราชารถสิทธิ์เป็นผู้ปกครองเมือง ท้าวรถสิทธิ์เมื่อได้เห็นพวกนางที่รูปร่างงดงามแล้วก็เกิดความรักใคร่ โดยรักนางเภามากที่สุด ท้าวรถสิทธิ์ได้นางทั้งสิบสองเป็นมเหสี อยู่มาวันหนึ่งนางทั้งสิบสองคนก็ได้ตั้งครรภ์ ในขณะเดียวกันนางยักษ์สัตราได้ใช้มนต์วิเศษของตนดูภาพพวกนางทั้งสิบสองผ่านกระจก นางสันตราจึงได้เห็นและรู้ว่านางสิบสองอยู่ที่เมืองกุตลนครและได้เป็นมเหสีของราชารถสิทธิ์ ก็ได้ตามไปจนมาถึงเมืองกุตลนครและได้พบกับท้าวรถสิทธิ์นางจึงเป่ามนต์สะกดให้ท้าวรถสิทธิ์รักใคร่และแต่งตั้งให้ตนเป็นพระมเหสีเอกแทนนางทั้งสิบสอง เมื่อนางสิบสองรู้ว่าเป็นนางยักษ์สันตรา พวกนางก็ตกใจกลัวนางทั้งสิบสองพยายามบอกว่า นางยักษ์แปลงร่างมาไม่ใช่เป็นนางงามอย่างที่ท้าวรถสิทธิ์เข้าใจ นางสันทะมาลาโกธรแค้นนางสิบสองเป็นอย่างยิ่ง นางจึงเป่ามนต์ให้ท้าวรถสิทธิ์เกลียดนางทั้งสิบสองและสั่งนางทั้งสิบสองไปขังไว้ในถ้ำแต่นางยักษ์สันตรายังไม่หยุดแค้น นางจึงออกอุบายว่าตนป่วยเป็นโรคประหลาด และบอกกับท้าวรถสิทธิ์ว่าต้องใช้ลูกตาของนางทั้งสิบสองมาทำยาให้กินจึงจะหาย ท้าวรถสิทธิ์ซึ่งกำลังลุ่มหลงนางอยู่ก็เชื่อและสั่งให้ควักลูกตาของนางทั้งสิบสองคนจะเอามาทำตัวยา โดยยกเว้นนางเภา ซึ่งสั่งว่าให้ควักเพียงข้างเดียว เพื่อให้นางเภาได้มีโอกาสได้เห็นโลกด้วยตาอีกข้างหนึ่ง นางยักษ์ได้สั่งให้วิรุฬและจำบังสมุนเอกของตนรับหน้าที่นี้ เมื่อมาถึงถ้ำทั้งสองได้ควักลูกตานางสิบสองทันทีโดยเรียงจากพี่ไปถึงน้อง และได้นำลูกตาของนางสิบสองใส่โถไปถวายให้นางสันธมาลา
นี่ก็เป็นเพราะเวรกรรมของนางทั้งสิบสองที่ตอนเด็กได้ควักตาปลาออกมาเล่น แต่นางเภาควักออกมาเพียงข้างเดียวจึงไม่โดนควักลูกตาทั้ง ๒ ข้าง นางทั้งสิบสองต้องทุกข์ทรมานยิ่งกว่าเดิม ปวดทั้งตาและท้องแก่ที่ใกล้คลอด จึงหากบเขียดแถวนั้นมาย่างกินประทังชีวิตและนางค่อมที่แอบนำข้าวมาถวาย เวลาผ่านไปจนกระทั่งพวกนางคลอดลูกออกมา ลูกของนางทั้ง 11 คนตายหมด เหลือแต่นางเภาที่ให้กำเนิดพระโอรสและตั้งชื่อว่า "รถเสน" รถเสนเป็นเด็กฉลาด รูปร่างงดงามมาก และมีความกตัญญูต่อแม่และป้าทั้ง ๑๑ คน รถเสนได้หลบหนีออกมาจากถ้ำออกมาหาข้าวและหาอาหารไปให้แม่และป้ากินเป็นประจำ...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น